คุณก็เห็นใช่ไหมว่าคอร์สสอน Facebook Ads นั้นมีอยู่เกลื่อนตลาดมากๆ มีตั้งแต่หนังสือ วีดีโอ อีบุ้ก สัมนา ฯลฯ
คอร์สส่วนใหญ่ที่คุณเห็นนั้นมักจะสอนแต่วิธีการใช้งาน Facebook Ads เพื่อให้คุณสามารถสร้างโฆษณาของตัวคุณเองได้ และสอนว่าใน Facebook Ads ทำอะไรได้บ้าง โดยที่คุณไม่ต้องไปนั่งอ่านคู่มือของ Facebook เอง... ซึ่งก็เป็นเรื่องดีนะครับถ้าคุณแค่อยากสร้างโฆษณาของตัวเองได้
แต่ผมต้องขอบอกคุณตรงๆเลยว่า...
การสร้างโฆษณาของตัวเองบน Facebook Ads ขึ้นมาได้นั้นไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกกลับมาได้... (ถ้าคุณไม่รู้ว่าต้องทำยังไง)
การทำโฆษณาบน Facebook Ads ในปัจจุบันนี้ไม่เหมือนกับเมื่อสมัย 7 ปีก่อนแล้วนะครับที่คุณจะสักแต่สร้างโฆษณาธรรมดาๆออกมาแค่แคมเปญเดียวแล้วก็คาดหวังว่าจะได้เงินกลับมาเลย
มันไม่ง่ายเหมือนสมัยนั้นแล้วครับ!
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยปี 2011 ผมทำเงินจากการลง Facebook Ads ได้แบบ ROI สูงมากๆ เรียกว่าลงเงินแค่หลักพัน ผมสามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาได้หลักหมื่นหลักแสนเสมอ และคนอื่นๆในช่วงนั้นก็ทำได้แบบผมเช่นกัน เรียกว่าเป็นช่วงขุมทองเลย
ซึ่งก็เป็นเพราะว่าการทำ Facebook Ads สมัยก่อนนั้นมีต้นทุนที่ต่ำมากๆและคู่แข่งก็น้อยมากๆด้วย (ก็แน่ล่ะ เพราะสมัยนั้นคนยังรู้จัก Facebook Ads น้อยมาก)
ยุคนี้คุณจึงจำเป็นจะต้องเรียนรู้มากกว่าการสร้างโฆษณาให้เป็นครับ คุณต้องรู้จักทั้งเทคนิคการเขียน การสร้างรูปให้น่าสนใจ รวมไปถึงการนำกลยุทธ์ไปใช้เพื่อให้โฆษณาที่คุณสร้างสามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาได้ครับ!
คุณรู้ใช่ไหมครับว่าตอนนี้...
- ใครๆก็รู้จัก Facebook Ads (คู่แข่งของคุณก็ด้วย)
- ใครๆก็สร้างโฆษณาบน Facebook Ads เป็น (คู่แข่งของคุณก็ด้วย)
- ใครๆก็ทำ Retargeting บน Facebook Ads เป็น (คู่แข่งของคุณก็ด้วย)
แต่ยังโชคดีที่คนส่วนใหญ่ที่ทำโฆษณาบน Facebook Ads นั้นก็ทำโฆษณากันแค่แบบทื่อๆ ไร้ความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำให้ตัวเองโดดเด่นกว่าคู่แข่งเลย (ก็แน่นอน... เค้ารู้มาแค่นั้น ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเค้าครับ)
ถ้าวันนี้คุณยังสร้างโฆษณาบน Facebook Ads แบบทื่อๆอยู่ แถมยังนั่งดูแค่ตัวเลขสถิติพื้นฐานอย่าง Reach, Impression, Link Clicks, CTR ฯลฯ
ผมขอบอกตามตรงว่า... คุณอาจจะไม่รอดจากโลกอันโหดร้ายของ Facebook Ads ในปัจจุบันครับ!
คุณเห็นด้วยกับผมไหมครับว่า...
ตัวเลขพวกนั้นไม่ว่ามันจะสวยงามเท่าไหนก็ตาม ถ้าตัวเลขเงินในบัญชีของคุณมันไม่สวยงามเหมือนกัน มันก็ไร้ประโยชน์...
พูดง่ายๆก็คือ... "เจ๊ง" ไงครับ!
ผมขอถามคุณว่าคุณจะเลือกการทำโฆษณาแบบไหน? ระหว่าง...
แบบแรก: คุณสร้างโฆษณาแล้วได้จำนวนคลิกกลับมาสัก 40,000 คลิก ขายสินค้าได้ 10 ชิ้น
กับ
แบบที่สอง: คุณสร้างโฆษณาแล้วมีคนเห็นจำนวนเท่ากัน แต่ได้จำนวนคลิกกลับมา 200 คลิก ขายสินค้าได้ 20 ชิ้น
เรามักจะโดนกูรูจากคอร์สต่างๆเป่าหูตลอดว่า... คลิกต้องได้เยอะๆ ค่า CTR ต้องสูงๆเข้าไว้ บลาๆๆๆๆๆ
สุดท้ายแล้วตัวเลขทุกอย่างสูงหมดเลย คนคลิกเข้ามาเพียบ แต่ขายของไม่ได้... คุณจะแฮปปี้ไหมล่ะ?
ผมบอกไว้ตรงนี้เลยว่า... สมัยทำ Facebook Ads ใหม่ๆเมื่อช่วงปี 2011-2014 ผมก็เชื่อแบบนั้นล่ะ
ผมนั่งปรับนั่งจูนให้ตัวเลขมันสวยงาม แต่ทำไมยอดขายไม่เห็นจะพุ่งไปสวยๆบ้าง!?
จนกระทั่งผมได้รู้ความจริงว่า...
การดูตัวเลขพื้นฐานเหล่านั้นก็เป็นแค่เครื่องมือให้เราสามารถนำไปวัดผลแบบพื้นฐานได้เท่านั้น
แต่การจะสร้างผลตอบแทนกลับมาแบบเป็นกอบเป็นกำเนี่ย...
ผมขอถามคุณว่า... คุณจะวัดผลตัวเลขจำนวนคลิกหรือ CTR ไปเพื่ออะไร?
รู้แล้วมันหมายความว่าอะไร?
แล้วเอาไปทำอะไรต่อได้?
มันก็แค่เป็นการบอกว่า... คนสนใจในโฆษณาที่คุณเขียนให้เค้าเห็นไหม ถ้าเค้าสนใจเค้าก็จะคลิก แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะซื้อ!
จริงๆตัวเลขจำนวนคลิกหรือพวก CTR มันก็สำคัญระดับนึงนะครับ
แต่ขอโทษที่ผมต้องบอกกับคุณว่า... มันไม่ใช่ตัวเลขที่สำคัญเป็นลำดับต้นๆของการทำธุรกิจเลย...
เพราะธุรกิจของคุณ(และผม)จะอยู่ต่อไปได้หรือไม่ได้นั้น... มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคลิกเว้ยยยยย!
ต้องขออภัย พูดแล้วของขึ้นครับ 5555
ผมขอลองเอาตัวอย่างตัวเลขสถิติที่ผมให้ความสนใจในธุรกิจของผมให้คุณดูครับ จะได้เข้าใจง่ายขึ้น
รูปตัวอย่างแคมเปญของผมนี้จริงๆผมสนใจตัวเลขอยู่ 2 ตัวเท่านั้นก็คือ... "IMTFD - Completed Content" และ "IMTFD - Paid" นอกนั้นไม่สน! จะ Link Clicks จะ CTR ผมไม่ได้ให้ความสนใจดูในตอนนี้เลย
แล้วไอ้ตัวเลข 2 ตัวนี้มันคืออะไรมาจากไหน?
ผมขออธิบายคร่าวๆถึงแคมเปญนี้ของธุรกิจผมให้คุณฟังก่อน จะได้เข้าใจง่ายขึ้นครับ
ธุรกิจของผมจะเป็นการขาย Digital Product เป็นคอร์สที่ชื่อว่า "IMT Finding Dollars" ซึ่งการขายของผมในแคมเปญนี้ผมจะทำแบบนี้ครับ
- สร้างโฆษณาแล้วให้คนคลิกเข้ามาอ่านบทความที่ผมเขียนสอนการทำธุรกิจออนไลน์ไว้ ถ้าอ่านจบแล้วอิน เค้าก็จะคลิกเพื่อไปดูรายละเอียดคอร์สที่ผมจะขาย
- หลังจากคลิกเข้าไปดูรายละเอียดคอร์ส ถ้าเค้าอิน เค้าก็จะทำการโอนเงินเพื่อซื้อคอร์ส
ขออนุญาตเอารูปหยาบๆมาประกอบการอธิบายนะครับ...
นั่นหมายความว่าในแคมเปญการขายสินค้าของผมตรงนี้ ผมมี 2 ขั้นตอนที่ผมให้ความสนใจ
1. เค้าอ่านบทความจบไหม? (ถ้าอ่านจบ ผมจะบวกตัวเลข "IMTFD - Completed Content" เข้าไปอีก 1)
2. เค้าซื้อไหม? (ถ้าซื้อ ผมก็จะบวกตัวเลข "IMTFD - Paid" เข้าไปอีก 1)
นี่คือตัวเลขที่ผมบอกคุณไว้ด้านบนว่า... มันมีความสำคัญมากกว่าพวกตัวเลขพื้นฐานที่ Facebook Ads บอกเราครับ
เพราะตัวเลขเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่าธุรกิจของเราจะอยู่รอดต่อไปได้ไหม!
ถ้าตัวเลขคนอ่านบทความจบมันน้อย ก็ปรับให้มันน่าอ่านกว่าเดิม
ถ้าตัวเลขคนซื้อมันน้อย ก็ปรับให้มันน่าซื้อกว่าเดิม
ไม่ใช่มัวแต่นั่งจับเจ้ากับตัวเลขพวกจำนวนคลิกหรือ CTR ครับ!
(ตัวเลขสองตัวนี้ทำให้ผมรู้ว่าผมต้องปรับส่วนไหนของธุรกิจผมบ้าง ซึ่งเป็นที่มาจาก ROI ติดลบไปสู่บวกจัดๆๆๆๆ!)
ธุรกิจของคุณเองก็ต้องมีตัวเลขเหล่านี้อยู่ เพียงแต่ผมไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงจุดไหนในกระบวนการขายของคุณ ต้องเป็นคุณเท่านั้นที่จะรู้เพราะมันคือธุรกิจของคุณเอง
มาถึงตรงนี้คุณอาจจะคิดว่า... ตัวเลขพวกนี้มันจะสร้างใน Facebook Ads ยังไงหว่า? ยากแหงมๆ!
ผมบอกเลยว่า Facebook Ads ก็เห็นว่ามันสำคัญเช่นกันครับ (แต่กูรูไม่เคยบอกคุณ) ทาง Facebook Ads เองจึงได้เตรียมเครื่องมือต่างๆเอาไว้ให้เราสร้างตัวเลขพวกนี้ได้แบบง่ายๆครับ (และผมจะบอกคุณแน่นอน)
มาถึงตรงนี้ผมเชื่อว่าคุณคงพอจะเห็นแล้วว่า การทำ ROI ให้ได้สูงๆนั้น จริงๆมันมีกระบวนการอะไรที่มากกว่าการทำ Facebook Ads และการนั่งเล่นกับตัวเลขพื้นฐานต่างๆเหล่านั้น
สำหรับกลยุทธ์ในแคมเปญที่ผมทำ ROI ได้ 4,427.07% นั้น ผมไม่ได้ทำเพียงแค่การสร้างตัวเลข 2 ตัวนั้นขึ้นมา
ผมทำทั้งการปรับรูป ปรับข้อความ ขยายกลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ
และผมยังใช้กลยุทธ์การทำ Retargeting แบบหลายระดับบวกกับการใช้ Lookalike เข้าไปผสมด้วยตามรูปด้านล่างครับ
ถ้าตอนนี้คุณกำลังทำแคมเปญ Facebook Ads ตามแบบรูปนี้ ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับ...
เพราะแคมเปญ Facebook Ads และธุรกิจของคุณจะมีโอกาสรอดจากเสือสิงห์กระทิงแรดสูงมากๆ!
แต่ถ้าคุณยังไม่เข้าใจในรูปกลยุทธ์ด้านบนนี้ ผมอยากจะบอกว่า...
เมื่อคุณเข้าใจในกลยุทธ์เหล่านี้แล้ว การนำไปประยุกต์ใช้จริงบน Facebook Ads นั้นจะทำได้ง่ายมากๆครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากบอกก็คือ... Facebook Ads ในวันนี้มันฉลาดมากๆ ฉลาดกว่า Facebook Ads สมัยปี 2011 แบบเทียบกันไม่ติดเลย มันเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่มีสมองน้อยที่สุดกับสิ่งมีชีวิตที่มีสมองมากที่สุด (และสมองขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆตลอดเวลา)
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ Facebook Ads ยังคงน่าสนใจกว่า Social network อื่นๆอยู่...
AI หรือ Machine Learning ของ Facebook มันฉลาดมากๆๆๆๆๆ ถ้าเราใช้เป็น มันจะหาลูกค้าใหม่ให้เราได้ตลอดเลย!
แต่ก่อนอื่นเลย เราต้องยอมรับก่อนว่า...
ผมขอสารภาพกับคุณเลยครับว่า... จริงๆแล้วผมไม่ใช่คนที่เก่ง Facebook Ads เหมือนพวกกูรูคนอื่น...
ถึงแม้ผมจะเริ่มต้นทำ Facebook Ads มาตั้งแต่ปี 2011 แต่ผมน่าจะรู้ว่า Facebook Ads ทำอะไรได้บ้างแค่ประมาณ 20-30% ของความสามารถทั้งหมดเท่านั้นครับ
และผมก็เชื่อว่า... คุณก็คงไม่ได้อยากรู้จักว่า Facebook Ads มันทำอะไรได้บ้างทั้งหมดในตอนนี้จริงไหมครับ?
ถ้าคุณเหมือนกับผมตอนสมัยเริ่มต้นทำ Facebook Ads...
คุณน่าจะกำลังอยากรู้แค่ว่าจะใช้ Facebook Ads ทำเงินให้กับธุรกิจของคุณเองได้อย่างไร แบบไม่ต้องรู้หมดทุกซอกทุกมุมก็ได้ จริงไหมครับ? (ถ้าคุณอยากรู้ทุกซอกทุกมุมของ Facebook Ads ผมแนะนำให้ไปอ่านคู่มือของ Facebook Ads เองครับ ละเอียดมากๆยิ่งกว่าที่พวกกูรูเค้าสอนกันอีกครับ)
ผมเชื่อมั่นอย่างแรงว่า... คุณก็ทำแบบที่ผม(และอีกหลายๆคน)ทำได้ แม้ว่าจะมีพื้นฐานทางด้านคอมฯไม่มากก็ตาม
คุณรู้ไหมว่า Facebook ในตอนนี้มันรู้จักตัวเรามากกว่าที่เรารู้จักตัวเราเองอีก...
เพราะอะไร? ก็เพราะคุณ(และผมและมนุษย์ทั่วโลก)วันๆจิ้มแต่ Facebook ไงล่ะ!
ทุกกิจกรรมที่คุณทำและมี Facebook มาเกี่ยวข้อง(ทั้งแบบชัดเจนและแอบๆ)ล้วนแล้วแต่โดน Facebook เก็บบันทึกไว้ทั้งหมด เพื่อเอาไปเป็นอาหารสมองให้กับ AI ของมัน
ในฐานะของผู้บริโภคก็ต้องบอกว่า... ผมกลัวนะ เพราะมันจะรู้เลยว่าผมสนใจเรื่องอะไรบ้าง กลัวเจอข้อเสนอที่เลี่ยงไม่ได้สุดๆ 555
แต่ในฐานะของนักการตลาดก็ต้องบอกว่า... ผมชอบมันโคตรๆ! 55555555
เพราะมันจะเป็นเครื่องมือให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงแบบไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนยังไงล่ะครับ :)
รู้หมือไร่?
ถ้าคุณสอนให้ AI ของ Facebook Ads ทำงานอย่างถูกวิธี... มันจะช่วยหาลูกค้าใหม่ๆให้คุณเพิ่มได้แบบเรียกว่าแทบจะไร้ขีดจำกัดเลย ในบางครั้งมันจะสามารถหากลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ที่เราคาดไม่ถึงมาให้ได้อีกด้วย!
แหม ไม่น่าถาม... คุณก็ต้องบอกว่าดีอยู่แล้วจริงไหมครับ? 5555
และข่าวดีก็คือ... คุณสามารถทำมันได้จริงๆครับ (ถ้าทำอย่างถูกวิธี)
และมันก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่อยู่ด้านในของสิ่งที่ผมกำลังจะนำเสนอครับ
"แถ่น แทน แท๊นนนนน"
คอร์สสอนการใช้งาน Facebook Ads ที่จะช่วยให้เราย้อนเวลากลับไปโฟกัสผลตอบแทนที่เป็นเงิน มากกว่าที่จะไปสนใจเรื่องคลิกๆๆๆๆ CTRๆๆๆๆ จำนวนวิววีดีโอๆๆๆๆ แต่สุดท้ายแล้วขายไม่ได้!!
โดยในคอร์สนี้ผมจะสอนแบบเนื้อๆเน้นๆเฉพาะจุดที่สำคัญๆที่ผมทำจริงเจ็บจริงมาแล้วและได้ผลตอบแทนเป็นบวกเท่านั้น
อะไรที่ผมไม่เคยทำ ผมจะไม่ได้เอามาสอน...
อะไรที่เป็นผลลัพธ์ของคนอื่น ผมก็จะไม่ได้ยกมาเป็นตัวอย่างเช่นกัน (เพราะมันไม่ใช่ของผม ผมไม่รู้กลยุทธ์หรือแนวคิดที่แท้จริงของคนทำแน่นอน และผมก็ไม่อยากไปวิเคราะห์โดยใช้ความเห็นส่วนตัวตั้งต้น)
ในคอร์สนี้จะไม่ได้มีเนื้อหายาวมากนะครับ เรียกว่าสั้นและกระชับสุดๆ เพราะว่าผมต้องการให้คุณใช้เวลาเรียนรู้ให้น้อยที่สุด และจะไม่เอาสิ่งที่ยังไม่ได้ใช้เข้าสมองให้รก (อะไรไม่จำเป็น ผมตัดทิ้งออกจากคอร์สหมด ไม่อยากยัดน้ำมาให้ดูเยอะ)
นั่นหมายความว่า...
คอร์สนี้จะไม่เหมาะกับคุณ... ถ้าคุณอยากรู้ว่า Facebook Ads มันประกอบไปด้วยความสามารถอะไรบ้างแบบทุกซอกทุกมุม (เหมือนคุณกำลังอยากจะรื้อรถยนต์คันนึงออกมาดูว่ามันมีอะหลั่ยอะไรบ้าง เพื่อ!!??)
แต่คอร์สนี้จะเหมาะกับคุณ... คนที่อยากลงโฆษณาบน Facebook Ads แล้วสามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาเป็นบวกได้! (เหมือนคุณอยากรู้ว่าจะต้องขับรถยนต์คันนี้ยังไงให้ไปถึงเส้นชัยได้ไวกว่าคันอื่นโดยไม่ได้สนใจจะไปรื้ออะหลั่ยต่างๆมาดูเลย)
ลองพิจารณาตัวเองดูก่อนครับว่าคุณต้องการแบบไหน? :)
Thawatchai J.
ผมตาฝาดหรือพิมพ์ตกเลข 9 ไปอีกตัวหรือเปล่าครับ คอร์สที่มีเนื้อหาแบบนี้ จากคนสอนที่ไม่ได้ดูน่าเชื่อถือมากยังราคาหลายพัน คอร์สที่มีเนื้อหาพื้นๆยังมีบางคอร์สเกือบหมื่น บางอันก็หลายหมื่น แล้วนี่เป็นคุณก๊วงมาสอนเอง ซึ่งใครๆก็รู้ว่า ถ้ายังไม่ได้ทดลองมาจริง จะไม่สอน ราคานี้อีก 3 ชาติก็หาไม่ได้แล้ว ขอบคุณที่ทำคอร์สดีๆ แบบนี้ให้พวกเราครับ"
ย้ำอีกครั้งว่าคอร์สนี้ไม่ใช่การแปลคู่มือ Facebook Ads มาเป็นภาษาไทย แต่ทุกอย่างมาจากประสบการณ์การลองผิดลองถูกของผมมา ถ้าอยากรู้ทุกเรื่องที่มีใน Facebook Ads ผมแนะนำว่าให้ไปอ่านคู่มือจากทาง Facebook ได้เลย (หรือไปลงคอร์สคนอื่นก็ได้ครับ มีเยอะมากที่เนื้อหาเหมือนกับอ่านคู่มือจากทาง Facebook Ads)
และถ้าคุณได้สละเวลาอ่านมาจนถึงตรงนี้... ผมขอขอบคุณอย่างสูงและอยากบอกว่า...
ตอนนี้คุณกำลังโดนกลยุทธ์นึงจาก "Facebook Ads Playbook by IMT" เก็บพฤติกรรมของคุณอยู่!
ถ้าคุณเคยเล่น Facebook Ads อยู่ และมี Pixel Helper คุณจะเห็นสถานะแบบนี้...
นั่นคือ... ผมกำลังเก็บข้อมูลคุณอยู่ และตอนนี้ผมเก็บคุณลงไปใน 2 กลุ่มเป้าหมายของผมเพื่อเอาไปทำการตลาดแบบ Retargeting ต่อ!
ซึ่งถ้าคุณอ่านต่อลงไปอีกเรื่อยๆ ผมก็จะเก็บข้อมูลว่าคุณสนใจในคอร์สนี้ระดับที่เรียกว่าเกือบซื้อแล้ว และแน่นอนว่าคุณจะเจอโฆษณาของผมตามไปหลอกหลอนอยู่เรื่อยๆโดยแต่ละโฆษณาก็จะแสดงข้อเสนอที่เหมาะกับคุณโดยอิงข้อมูลจากที่ผมเก็บเอาไว้แบบนี้
ซึ่งเป็นวิธีการขายที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลดีมากๆ!
และแน่นอนว่านี่จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่คุณจะได้เรียนรู้ด้านใน "Facebook Ads Playbook by IMT"
ถ้าตอนนี้คุณยังไม่เข้าใจ ไม่เป็นไรครับ... ด้านในคอร์สจะอธิบายให้คุณฟังถึงที่มาที่ไปพร้อมอธิบายด้วยรูปประกอบอย่างละเอียด :)
เนื้อหาภายในคอร์ส Facebook Ads Playbook by IMT จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักครับ
The Foundation
พื้นฐานที่จำเป็นต้องรู้ในการใช้ Facebook Ads
The Playbook
เทคนิค ไอเดียและกลยุทธ์ต่างๆในการใช้ Facebook Ads
จริงๆแล้วต้องบอกว่าผมไม่เคยมีแพลนจะนั่งทำคอร์ส Facebook Ads ออกมาเลย
เพราะตั้งแต่ทำธุรกิจออนไลน์(โดยเฉพาะในตลาดนอก)มาสิบกว่าปีผมไม่เคยให้ความสำคัญระดับสูงกับการจ่ายเงินเพื่อหาทราฟฟิคแบบนี้เลย!
ถ้าคุณเป็นเพื่อนผมบน Facebook คุณจะรู้ว่า...
กลยุทธ์ในการหาทราฟฟิคหลักของผมก็คือการทำ List building เพื่อให้ผมสามารถมีทราฟฟิคเป็นของตัวเองแบบเด็ดขาด 100% ไม่ต้องจ่ายเงินให้ใครเพื่อหาทราฟฟิคเพิ่มเติมอีก (ไว้วันหลังผมจะเล่าให้ฟัง)
อันดับสองคือการทำ JV Partner หรือพูดง่ายๆก็คือการหาประโยชน์ร่วมกันจากผู้ที่มีทราฟฟิคในมืออยู่แล้ว (ไว้วันหลังผมจะเล่าให้ฟังเช่นกัน)
และอันดับสามก็คือ... การทำ Media Buy ซึ่งลำพัง 3 อย่างนี้ ผมก็ไม่ต้องไปนั่งซื้อทราฟฟิคจากทั้ง Facebook หรือ Google แล้ว!
แล้วทำไมผมถึงมาพัฒนาคอร์ส "Facebook Ads Playbook by IMT" ล่ะ?
พูดกันแบบเปิดอกไปเลยว่าเหตุผลก็คือ...
เพราะนักเรียนของผมส่วนหนึ่งที่ทำ Digital Product อยู่ยังไม่สามารถเอาชนะ Facebook Ads ได้!
แน่นอนว่ามันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมเห็นแล้วก็รู้สึกว่า... จริงๆแล้วทุกๆเกมของการจ่ายเงินเพื่อซื้อทราฟฟิคนั้นมันมีหนทางในการเอาชนะอยู่ ซึ่งมีเพียงคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่เค้าทำกันอยู่
ผมเลยตัดสินใจกลับมาเล่น Facebook Ads และลงไปค้นหาพร้อมๆกับนักเรียนของผม
และเมื่อผมได้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา ผมก็เอามาเขียนเป็นแบบแผนเอาไว้ให้นักเรียนของผมอ่านไงล่ะครับ นี่ล่ะคือที่มาของคอร์สที่ชื่อว่า "Facebook Ads by IMT" นี้ (และสิ่งที่ผมทดสอบเพิ่มเติมเสร็จแล้ว ก็จะถูกใส่เพิ่มเข้าไปด้านใน)
ผมบอกเลยว่า... ยิ่งถ้าคุณได้รู้ว่าผมขายคอร์สนี้ในราคาเท่าไหร่ คุณจะต้อง... เซอร์ไพร์ส!
ตอนแรกผมก็กลัวว่านักเรียนของผมจะโกรธที่ผมเอาความรู้ตรงนี้ออกมาขายให้คนทั่วไป แต่ผมก็กลับพบว่าพวกเค้ายินดีที่จะแบ่งปันให้คนทั่วไปได้เข้าถึงเทคนิคและกลยุทธ์ในการเล่นเกม Facebook Ads ด้วยกันได้ในราคาที่ทุกคนจับต้องได้
ผมขอขอบคุณนักเรียนทุกคนของผมไว้ในที่นี้ด้วยครับ (ถ้าพวกคุณได้มาอ่านหน้านี้อยู่) :)
และถ้าสงสัยว่า... แล้วนักเรียนของผมจะไม่กลัวคุณกลายเป็นคู่แข่งเรอะ?
แน่นอนว่าไม่กลัวครับ เพราะนักเรียนส่วนใหญ่ของผมขาย Digital Product อยู่เมืองนอกครับ!
ตอนที่ผมทำ Facebook Ads ใหม่ๆ ผมก็มีเป้าหมายเหมือนๆกับคุณคือต้องการได้เงินกลับมานั่นล่ะครับ
แต่ไม่น่าเชื่อว่า... พอเวลาผ่านไปหลังจากที่เราเริ่มลงมือศึกษาจากแหล่งต่างๆทั้งของฟรีบนกูเกิ้ล จ่ายเงินเรียนในคอร์ส ฯลฯ
เรากลับหลงลืมไปจมปลักอยู่กับการทำ Ads เพื่อให้ได้แค่จำนวนคลิกเยอะๆ อัตราการคลิกดีๆ ต้นทุนต่ำๆ จนหลงลืมไปว่าจุดมุ่งหมายหลักของเราก็คือเงินที่เป็นผลตอบแทนกลับมาครับ (ถ้าคุณยังคงหลงไหลไปกับการสร้างตัวเลขยอด Like ของแฟจเพจ ผมก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ... คุณไม่เหมาะกับคอร์สนี้เอามากๆ!)
ทำ Ads ให้มีคนคลิกมันไม่ยากครับ แต่จะเอา Ads ที่มีคนคลิกไปทำอะไรยังไงกับมันต่อ...
นี่คือโจทย์ที่คุณต้องคิดเพื่อให้ได้ผลตอบแทนกลับมาเป็นเงินที่คุณต้องการ
และ "Facebook Ads Playbook by IMT" ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ!
ผมอยากบอกว่ากฎทองของ Pareto 80/20 ยังคงใช้ได้เสมอ กับวงการ Facebook Ads ก็เช่นกัน...
ถ้าคุณทำโฆษณาเหมือนกับคนส่วนใหญ่ ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับก็จะแค่นิดเดียวเท่านั้น
แต่ถ้าคุณหันมาทำเหมือนที่โปรทำกัน (Know-how ที่ผมจะสอนด้านใน เป็น Know-how ระดับสากล โปรใช้มาจริง และใช้ได้ทั่วโลก) จริงๆน่าจะเป็นกลุ่มที่เล็กกว่า 20% ด้วยซ้ำ... คุณจะสามารถคาดหวังผลตอบแทนจากส่วนแบ่งในระดับ 80% ของทั้งหมดได้เลย...
คุณอาจจะอ่านแล้วงงๆ ผมสรุปสั้นๆให้ฟังก็คือ...
ถ้าคุณทำโฆษณา Facebook Ads เหมือนคนส่วนใหญ่... รอดยาก เพราะคู่แข่งส่วนใหญ่ก็ทำแบบเดียวกับคุณ
แต่ถ้าคุณทำโฆษณาที่แตกต่างเหมือนกับคนกลุ่มเล็กๆที่ผมบอก... Facebook Ads มันก็ยังคงเป็นขุมทองอยู่!
คุณอาจจะหันไปสนใจ Social network ตัวอื่นๆตามที่คนเค้าบอกบ้าง แต่เชื่อสิว่า Facebook Ads มันคือแหล่งทราฟฟิคที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่แพ้ใครในปัจจุบันเหมือนกัน! โดยเฉพาะไอ้เจ้า AI ของ Facebook ที่มันฉลาดเป็นกรดแบบไม่มี Social network ที่ไหนเทียมทานได้ :)
ผมบอกเลยว่าถ้าคุณไม่ย้ายที่อยู่ของตัวเองจาก 80% ไปที่ 20%... หนทางรอดบน Facebook Ads จะแคบลงเรื่อยๆครับ :(
และมันเป็นเรื่องจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้เลย...
“ผมตาฝาดหรือพิมพ์ตกเลข 9 ไปอีกตัวหรือเปล่าครับ คอร์สที่มีเนื้อหาแบบนี้ จากคนสอนที่ไม่ได้ดูน่าเชื่อถือมากยังราคาหลายพัน คอร์สที่มีเนื้อหาพื้นๆยังมีบางคอร์สเกือบหมื่น บางอันก็หลายหมื่น แล้วนี่เป็นคุณก๊วงมาสอนเอง ซึ่งใครๆก็รู้ว่า ถ้ายังไม่ได้ทดลองมาจริง จะไม่สอน ราคานี้อีก 3 ชาติก็หาไม่ได้แล้ว ขอบคุณที่ทำคอร์สดีๆ แบบนี้ให้พวกเราครับ"
“ชอบพี่ก๊วง สอนดี กระชับ ชัดเจน เอามาเฉพาะที่ใช้งานได้เลยก่อน ไม่ล้น :) เรียนจบปุ๊บ อุทานออกมาว่า เชรดดดดด ทำไมไม่สอนตั้งนานแล้วฟระ มึนเองตั้งนานจนมึนต้องหนีขึ้นเขา 5555555 "
(รีบซื้อก่อนที่จะขึ้นเป็นราคาเต็ม 2,999 บาทในเร็วๆนี้)
**เข้าเรียนผ่านระบบออนไลน์ภายใน 24 ชม.หลังจากแจ้งการชำระเงิน**
คนไทยคนแรกและคนเดียวในปัจจุบันที่ ClickBank.com ควักกระเป๋าเชิญให้ไปพูดบนเวทีต่างประเทศร่วมกับนักการตลาดออนไลน์ระดับโลกในหัวข้อ "How to start a digital business like a PRO" (ClickBank คือ Marketplace ของสินค้าดิจิตอลอันดับหนึ่งของโลกสร้างยอดขายไปมากกว่า $3 Billion USD - ย้ำว่าไม่ได้จ่ายตังเองเพื่อขอไปขึ้นพูดแปบๆบนเวทีแล้วถ่ายรูปมาอวดโลก)
ทุกอย่างมีเหตุและมีผลของมันครับ
หนึ่งในเหตุผลที่ผมขายคอร์สนี้ในราคาที่ถูกมากๆแค่ 999 ก็เพราะว่า... ผมตั้งใจทำให้คอร์สนี้ของผมเป็น Tripwire ครับ!
Tripwire!!?? ว้อทส์อัปแม๋นนนน!!??
ถ้าคุณยังไม่รู้จักกับคำว่า Tripwire ผมจะขออนุญาตอธิบายสั้นๆครับ
Tripwire ก็คือ "สินค้าราคาถูกที่ผมจะใช้ขายเพื่อให้คุณเข้าสู่ Funnel การขายหลักของผมต่อไป"
ขอลองแปลอีกรอบแบบภาษาชาวบ้าน 5555
Tripwire ก็คือ "สินค้าราคาถูกที่ผมจะขายให้คุณและคาดหวังว่าคุณจะชอบมันมากๆจนกลับมาซื้อคอร์สอื่นจากผมต่อ"
เอ้อ... แบบนี้ชัดกว่านะครับ! 5555555
ส่วนมูลค่าของสิ่งที่ผมนำมาสอนผมบอกเลยว่า... เกินราคาไปเป็นหลักสิบหลักร้อยเท่าครับ (ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเอามันไปลงมือทำมากน้อยขนาดไหน)
และนั่นเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของผมในการนำคอร์สนี้ออกมาให้คุณเห็น
ผมอยากให้คุณได้รู้ว่าโลกของการสร้างเงินจากอินเตอร์เน็ทนั้นมันกว้างขวางมากกว่าการจะจมปลักอยู่กับแค่ Facebook Ads เท่านั้นนะครับ
โลกของธุรกิจออนไลน์นั้นมันยังมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกเยอะมาก โดยเฉพาะรูปแบบของธุรกิจที่คนส่วนใหญ่ใฝ่ฝันแต่ยังไม่สามารถไปให้ถึงเพราะติดอยู่กับ Comfort Zone ในปัจจุบัน
คุณรู้ไหมว่าโลกของธุรกิจออนไลน์ที่ผมอยู่นั้น... ผมก็ขายของออนไลน์เหมือนๆกับคุณล่ะครับ
แต่ความแตกต่างระหว่างเรานั้นอยู่ที่... ของที่ผมขายมันเป็น Digital Product!
แถมผมยังใช้กลยุทธ์และเครื่องมือต่างๆทำให้ระบบการตลาด การขาย ฯลฯ ทำงานแทนผมแบบอัตโนมัติเกือบ 100% เลย ซึ่งมันทำให้ทุกวันนี้ผมสามารถไปรับ-ส่งลูก 2 คนพร้อมๆกับภรรยาได้
ผมสามารถไปเที่ยวทริปละ 30 วันได้โดยไม่ต้องหิ้วคอมพิวเตอร์ไปทำงานด้วยก็ยังได้! แถมระหว่างเที่ยวก็ยังมีรายได้ไหลเข้ามาในกระเป๋าของผมตลอด (เพราะผมเซ็ตระบบอัตโนมัติไว้แล้ว)
ฟังแล้วอาจจะดูขี้โม้โอ้อวดแต่ผมก็ต้องบอกว่าผมไม่ได้โม้... และผมทำงานอย่างหนัก (หนักกว่าคนทำงานประจำ) มานานกว่า 4-5 ปีกว่าจะสร้างชีวิตแบบนี้ได้!
เพียงแค่คุณก้าวเข้ามาในคอร์ส "Facebook Ads Playbook by IMT" ผมเชื่อว่าคุณจะไม่ได้เรียนรู้แค่เรื่อง Facebook Ads อย่างแน่นอน เพราะเมื่อคุณเข้ามาในระบบการเรียนการสอนของผมแล้ว...
คุณจะได้เห็นการทำงานด้วยความรู้ระดับสากลที่ผมใช้สร้างผลลัพธ์ให้กับชีวิตตัวเอง(และคนอื่นๆ)มาแล้ว
ซึ่งมันเป็นความรู้ที่ทำให้ผมได้รับเชิญไปพูดบนเวทีต่างประเทศโดยองค์กรด้าน Digital Product อันดับ 1 ของโลกที่สร้างรายได้จากการขาย Digital Product ไปมากกว่า $3,000,000,000 USD มาแล้ว!
คุณจะได้เรียนรู้เรื่องเหล่านั้นเพิ่มเติมหลังจากก้าวเข้ามาในคอร์ส "Facebook Ads Playbook by IMT" แน่นอน :)
ผมหวังว่าเราจะได้พบกันด้านในนะครับ :)
แล้วคุยกันครับ
ก๊วง IMT
"Full-time Dad & Internet Marketing Strategist"
(รีบซื้อก่อนที่จะขึ้นเป็นราคาเต็ม 2,999 บาทในเร็วๆนี้)
**เข้าเรียนผ่านระบบออนไลน์ภายใน 24 ชม.หลังจากแจ้งการชำระเงิน**
ปล. ทุกอย่างที่ผมสอนในคอร์ส "Facebook Ads Playbook by IMT" ล้วนแล้วแต่มาจากการเรียนรู้และลงมือทำเพื่อทดสอบว่ามันใช้งานได้ดีและได้ผลตอบแทนกลับมาจริงๆในธุรกิจของผมเอง อะไรไม่เวิร์คหรือได้ผลตอบแทนน้อยผมตัดออกหมดเพื่อให้คุณเสียเวลาในการเรียนรู้น้อยที่สุด คุณสบายใจได้ว่าผมไม่ได้ไปอ่านคอร์สของใครมาหรือแปลจากคู่มือมาแล้วเอามาสอนคุณอีกทีเหมือนกับพวก Wanna-be-Guru หลายๆคนครับ!
ปล2. ถ้าอยากรู้ว่ากลยุทธ์ที่ผมใช้ในหน้านี้เป็นอย่างไร ลองคลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้ครับ :)
Copyright - IMT Inspiration & Services co.,ltd.
Disclaimer
